ฮอร์โมนเพศชาย

ฮอร์โมนเพศชายคืออะไร?

ฮอร์โมนเพศชายหลักคือ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะทางกายภาพของเพศชาย เช่น การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ การสร้างมวลกระดูก ความต้องการทางเพศ และการควบคุมอารมณ์ ระดับฮอร์โมนนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและมีผลต่อสุขภาพในแต่ละช่วงวัย

 

ฮอร์โมนเพศชายในแต่ละช่วงวัย

วัยเด็กและวัยรุ่น (0-19 ปี)

  • เทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในพัฒนาการของอวัยวะเพศชายตั้งแต่ทารกในครรภ์

  • ในช่วงวัยรุ่น ระดับฮอร์โมนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น เสียงแตก การเพิ่มขึ้นของมวลกล้ามเนื้อ และการเจริญเติบโตของขนตามร่างกาย

  • การออกกำลังกายและโภชนาการที่เหมาะสมช่วยสนับสนุนการพัฒนาและสมดุลของฮอร์โมน

วัยหนุ่ม (20-39 ปี)

  • เทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญในพัฒนาการของอวัยวะเพศชายตั้งแต่ทารกในครรภ์

  • ควรเน้นการดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับให้เพียงพอ

  • ความเครียดและพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ อาจลดระดับฮอร์โมนได้

  • หากมีอาการอ่อนเพลียหรือภาวะฮอร์โมนต่ำ อาจต้องตรวจระดับเทสโทสเตอโรนเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว

วัยกลางคน (40-59 ปี)

  • ระดับเทสโทสเตอโรนเริ่มลดลงปีละประมาณ 1% ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป

  • อาจเริ่มมีอาการของ ภาวะเทสโทสเตอโรนต่ำ (Low T) เช่น อ่อนเพลีย กล้ามเนื้อลดลง สมรรถภาพทางเพศลดลง และอารมณ์แปรปรวน

  • ควรดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน เช่น เวทเทรนนิ่ง และเลือกรับประทานอาหารที่มีสังกะสีและวิตามินดีสูง

  • การตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยตรวจจับปัญหาฮอร์โมนและป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคหัวใจและโรคกระดูกพรุน

วัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)

  • ระดับเทสโทสเตอโรนลดลงอย่างชัดเจน อาจส่งผลให้มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงลดลง รวมถึงมีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลต่ออารมณ์ เช่น ภาวะซึมเศร้าหรือความจำเสื่อม

  • ควรให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายแบบแรงต้าน การควบคุมน้ำหนัก และการปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน หากจำเป็น

 

ทำไมควรตรวจสมดุลฮอร์โมนเพศชาย?

การตรวจสมดุลฮอร์โมนเพศชายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประเมินสุขภาพโดยรวมและป้องกันภาวะฮอร์โมนผิดปกติที่อาจส่งผลต่อร่างกาย การตรวจสามารถช่วย:

  • คัดกรองภาวะเทสโทสเตอโรนต่ำที่อาจนำไปสู่ภาวะอ่อนเพลีย ซึมเศร้า และสมรรถภาพทางเพศลดลง

  • วางแผนดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังงาน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และควบคุมน้ำหนัก

  • ป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและโรคกระดูกพรุน ซึ่งอาจเกิดจากระดับเทสโทสเตอโรนที่ต่ำกว่าปกติ

 

ต้องตรวจเเลปอะไรบ้าง?

การตรวจสมดุลฮอร์โมนเพศชายสามารถทำได้ผ่านการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับของ:

  • Total Testosterone – ระดับเทสโทสเตอโรนทั้งหมดในร่างกาย

  • Free Testosterone – ระดับเทสโทสเตอโรนที่ร่างกายนำไปใช้ได้โดยตรง

  • SHBG (Sex Hormone Binding Globulin) – โปรตีนที่จับกับเทสโทสเตอโรนและส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมน

  • LH (Luteinizing Hormone) – ฮอร์โมนที่ควบคุมการผลิตเทสโทสเตอโรนจากลูกอัณฑะ

  • FSH (Follicle-Stimulating Hormone) – ฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์

  • DHEA-S (Dehydroepiandrosterone Sulfate) – ฮอร์โมนที่เป็นสารตั้งต้นของเทสโทสเตอโรน

  • Estradiol (E2) – ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศชาย ซึ่งหากสูงเกินไปอาจส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศและมวลกล้ามเนื้อ

  • Prolactin – ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของต่อมใต้สมอง ซึ่งอาจมีผลต่อระดับเทสโทสเตอโรน

 

ใครบ้างที่ควรตรวจสมดุลฮอร์โมนเพศชาย?

  • ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง สมรรถภาพทางเพศลดลง หรืออารมณ์แปรปรวน

  • ผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือมีปัญหาในการลดน้ำหนัก

  • ผู้ที่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของร่างกาย

  • ผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับหรือภาวะเครียดเรื้อรัง

  • ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุนหรือมีแนวโน้มที่จะสูญเสียมวลกระดูก

  • ผู้ชายวัยกลางคนและวัยสูงอายุที่ต้องการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อป้องกันภาวะฮอร์โมนผิดปกติ

 

วิธีดูแลสมดุลฮอร์โมนเพศชายในทุกช่วงวัย

  1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารที่มีโปรตีนสูง สังกะสี วิตามินดี และไขมันดีจากปลา ถั่ว และอะโวคาโด

  2. ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ

  3. นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

  4. หลีกเลี่ยงความเครียด ด้วยการทำสมาธิ ฝึกโยคะ หรือหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย

  5. เลี่ยงสารพิษและพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และการใช้สารเสพติด

  6. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อตรวจระดับฮอร์โมนและป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง

 

การตรวจสมดุลฮอร์โมนเพศชายเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพในทุกช่วงวัย หากพบอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมน ควรเข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม

บทความโดย พญ.รวิปรียา ภูมิโคกรักษ์แพทย์

เวชศาสตร์ป้องกัน เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ

Previous
Previous

ฮอร์โมนเพศหญิง

Next
Next

ทำไมต้องตรวจสมดุลฮอร์โมน?